ขวดแก้ว แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. ขวดแก้วดี จะถูกนำมาคัดแยกชนิด สีและประเภทที่บรรจุสินค้า ได้แก่ ขวดน้ำปลา ขวดเบียร์ ขวดน้ำอัดลม ฯลฯ การจัดการขวดแบบนี้หากไม่แตก บิ่น เสียหาย จะถูกนำกลับเข้าโรงงาน เพื่อนำไปล้างให้สะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่ที่เรียกว่า "Reuse"
2. ขวดแก้วแตก ขวดที่แตก ชำรุด เสียหาย จะถูกนำมาคัดแยกสี ได้แก่ ขวดแก้วแดง แก้วเขียว สีชา จากนั้นก็นำเศษแก้วมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล โดยบดให้ละเอียด ใส่น้ำยากัดสี ล้างให้สะอาด แล้วนำส่งโรงงานผลิตขวดแก้วเพื่อนำไปหลอมใหม่ เป็นต้น

พลาสติก แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. พลาสติกที่คงรูปถาวรหรือพลาสติกเทอร์โมเซต (Thermosetting Plastic) เป็นพลาสติกที่แข็งตัวด้วยความร้อนแบบไม่ย้อนกลับ สามารถขึ้นรูปผลิตภัณฑ์รูปทรงต่างๆได้โดยทำให้แข็งตัวด้วยความร้อนในแม่แบบ และเมื่อแข็งตัวแล้วจะมีความคงรูปสูงมาก เนื่องจากไม่สามารถหลอมเหลวได้อีก พลาสติกในกลุ่มนี้จึงจัดเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภท "รีไซเคิลไม่ได้"
2. พลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) เป็นพลาสติกที่หลอมตัวด้วยความร้อนและกลับแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิลดต่ำลง พลาสติกชนิดนี้จัดเป็นวัสดุประเภทรีไซเคิลได้ และเพื่อให้ง่ายต่อการแยกชนิดบรรจุภัณฑ์พลาสติก เพื่อนำกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้มีการนำสัญลักษณ์มาใช้บนบรรจุภัณฑ์อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

โลหะ มีหลายประเภท และที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้มี ดังนี้

1. เหล็ก ใช้กันมากที่สุดในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ผลิตเป็นอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเครื่องใช้ภายในบ้าน
2. ทองเหลือง เป็นโลหะที่มีราคาดี สามารถนำกลับมาหลอมใช้ใหม่ได้โดยการทำเป็นพระพุทธรูป ระฆัง อุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่างๆ และใบพัดเรือเดินทะเลขนาดใหญ่
3. ทองแดง สามารถนำกลับมาหลอมทำสายไฟใหม่ได้อีก
4. สแตนเลส สามารถนำกลับมาหลอมทำช้อน ส้อม กระทะ หม้อ เป็นต้น
5. ตะกั่ว สามารถนำกลับมาหลอมใหม่ทำเป็นฟิวส์ไฟฟ้า และส่วนประกอบของอุปกรณ์ต่างๆได้เช่นกัน

อลูมิเนียม แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. อลูมิเนียมหนา เช่น อะไหล่เครื่องยนต์ ลูกสูบ เป็นต้น
2. อลูมิเนียมบาง เช่น กะละมังซักผ้า ขันน้ำ กระป๋องน้ำอัดลม กระป๋องเบียร์ เป็นต้น